ประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตเมืองและชุมชนเกษตรกรรม มีฤดูกาลที่ใบไม้ร่วงจำนวนมากทุกปี ซึ่งมักถูกมองว่าเป็น "ขยะธรรมชาติ" ที่ต้องกำจัดอย่างเร่งด่วน แต่การกำจัดด้วยการเผา ก่อให้เกิดฝุ่นควัน PM2.5 ซึ่งเป็นภัยเงียบที่กระทบทั้งสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยตรง ในขณะเดียวกัน ใบไม้แห้งเหล่านี้กลับมีศักยภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วัตถุดิบทางชีวภาพ เช่น ปุ๋ยหมัก กระดาษทำมือ บรรจุภัณฑ์ธรรมชาติ งานหัตถกรรม ฯลฯ ซึ่งหากมีองค์ความรู้ การจัดการ และตลาดรองรับที่ดี ก็สามารถสร้าง "ของมีค่า" และรายได้ให้กับชุมชนได้ โครงการนี้จึงเกิดจากการมอง “ของที่ทุกคนมองข้าม” แล้วคืนคุณค่าให้ธรรมชาติ ผ่านการสร้างนวัตกรรมชุมชนที่เรียบง่ายแต่มีพลัง 🌱 ความยั่งยืนของโครงการเกิดขึ้นได้อย่างไร เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) นำวัสดุเหลือทิ้ง (ใบไม้แห้ง) มาใช้ซ้ำ ลดของเสีย และสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ สร้างโมเดลรายได้จากธรรมชาติที่ไม่ต้องใช้ต้นทุนวัตถุดิบสูง ถ่ายทอดความรู้ท้องถิ่น (Local Knowledge Transfer) มีการจัดอบรม การสาธิต และเวิร์กช็อปการแปรรูปใบไม้ให้กับคนในชุมชน สร้าง “ชุมชนผู้รู้” ที่สามารถต่อยอดได้ด้วยตัวเอง เชื่อมโยงตลาดและแบรนด์ท้องถิ่น พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีเรื่องราวจากท้องถิ่น และตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจโลก ส่งเสริมการขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างวัดผลได้ ลดการเผา ลดฝุ่นควัน และคืนคุณภาพอากาศให้ชุมชน สร้างพื้นที่สีเขียวที่สะอาดและมีการจัดการอย่างยั่งยืน
ใบไม้แห้งถูกมองว่าไร้ค่า เป็นขยะที่ต้องเผาหรือกวาดทิ้ง เพิ่มปัญหามลพิษฝุ่นควัน และเสียโอกาสในการสร้างรายได้ให้ชุมชน 🔍 ปัญหาหลัก: ใบไม้แห้งจำนวนมากถูกเผาทิ้ง → เกิดฝุ่น PM2.5 คนมองว่าใบไม้ไม่มีค่า → ขาดแรงจูงใจในการเก็บหรือใช้ ไม่มีระบบจัดการหรือความรู้ในการแปรรูป → ทรัพยากรถูกทิ้งไป ชุมชนขาดช่องทางตลาดหรือการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง จึงเป็น ปัญหา (Pain Point) ของใบไม้แห้ง: 1. มุมสิ่งแวดล้อม: ใบไม้แห้งถูกจัดเป็น "ขยะชีวมวล" ที่หลายคนเลือก "เผา" เพราะกำจัดง่ายและเร็ว การเผาใบไม้ทำให้เกิด ฝุ่นควันและ PM2.5 ที่เป็นปัญหาสำคัญในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในฤดูแล้ง มลพิษที่เกิดขึ้นมีผลต่อสุขภาพโดยตรง เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ หอบหืด และโรคหัวใจ ใบไม้ที่ถูกทิ้งไม่ได้ถูกนำกลับเข้าสู่ระบบธรรมชาติ ทั้งที่จริงแล้วมันสามารถเป็น ปุ๋ยธรรมชาติหรือวัตถุดิบแปรรูปได้ 2. มุมเศรษฐกิจ: ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่แล้วฟรีๆ เช่นใบไม้ ไม่ถูกใช้ให้เกิด “มูลค่าเพิ่ม” ชุมชนขาดองค์ความรู้หรือเครื่องมือในการแปรรูปให้เป็นสินค้า มีโอกาสสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ ใช้เรื่อง “ความยั่งยืน” เป็นจุดขายได้ แต่ยังไม่มีการเชื่อมต่อกับตลาด 3. มุมสังคมและพฤติกรรม: คนส่วนใหญ่ไม่เห็นว่า “ใบไม้แห้งมีคุณค่า” เพราะถูกมองว่าเป็นขยะ มีความเคยชินแบบดั้งเดิม เช่น “ฤดูใบไม้ร่วงก็ต้องเผาอยู่แล้ว” ขาดระบบหรือพื้นที่ให้คนในชุมชนจัดการใบไม้ร่วมกัน เช่น จุดรวบรวม จุดแปรรูป หรือศูนย์เรียนรู้
สร้างกระบวนการเก็บ รวบรวม และแปรรูปใบไม้แห้งเป็นสินค้าสร้างสรรค์ เช่น บรรจุภัณฑ์ชีวภาพ กระดาษรีไซเคิล งานหัตถกรรม หรือปุ๋ยหมักพรีเมียม เพราะ ใบไม้แห้งไม่ใช่ขยะ แต่เป็นโอกาส 🧭 แนวทางการแก้ไข (Solutions) 1. จัดตั้งศูนย์เรียนรู้หรือศูนย์จัดการใบไม้ในชุมชน (Leaf Lab / Leaf Hub) เป็นจุดรับ-แปรรูป-จำหน่ายใบไม้แห้ง ให้บริการอบรม ทำเวิร์กช็อป เช่น การทำกระดาษใบไม้ บรรจุภัณฑ์ ปุ๋ยหมัก งานคราฟต์ เชื่อมโยงกับโรงเรียน ชมรมผู้สูงอายุ และกลุ่มแม่บ้านในพื้นที่ 2. สร้างโมเดล “เก็บ–เปลี่ยน–ขาย” (Collect – Convert – Commerce) เก็บ: ตั้งจุดรับใบไม้ตามชุมชน และสนับสนุนให้ประชาชนเก็บมาส่ง แลกแต้ม/รายได้ เปลี่ยน: ใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น เครื่องอัดกระดาษ, การย้อมสีธรรมชาติ ขาย: ตั้งแบรนด์สินค้าเน้นคุณค่าทางสิ่งแวดล้อม พร้อมเล่าเรื่องราวเพื่อเพิ่มมูลค่า 3. พัฒนาโปรแกรมสนับสนุนจากภาครัฐ/เอกชน/CSR ขอทุนสนับสนุนเริ่มต้น (seed funding) เพื่อสร้างต้นแบบ จับมือกับหน่วยงานที่สนใจด้าน Green Innovation, SDG หรือเศรษฐกิจพอเพียง 4. สร้างผลิตภัณฑ์ที่ “เล่าเรื่อง” ได้ เช่น: สมุดจากกระดาษใบไม้, บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก, กระเป๋า/ของใช้ตกแต่ง สื่อสารผ่านโซเชียลว่า “ใบไม้แห้งของคุณ ไม่ได้จบที่เตาเผา แต่มาอยู่บนโต๊ะทำงานของคนทั่วโลก” 5. สร้างแรงจูงใจและการเปลี่ยนทัศนคติ ทำแคมเปญสร้างสรรค์ เช่น “1 ใบไม้ = 1 โอกาส” ประกวดไอเดียการใช้ใบไม้ในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย ทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์สายสิ่งแวดล้อมเพื่อขยายพลังการรับรู้
: 6
: 0.00
: มณีรัตน์ บุญสินธุ์
(ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ)
12.5 By 2030, substantially reduce waste generation through prevention, reduction, recycling and reuse
12.8 By 2030, ensure that people everywhere have the relevant information and awareness for sustainable development and lifestyles in harmony with nature
1. ผลิตภัณฑ์จากใบไม้ (กระดาษจากใบไม้, ปุ๋ยหมัก, ของตกแต่ง, บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก) ตัวชี้วัด: จำนวนผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากใบไม้แห้งที่ผลิตได้ (เช่น กระดาษ, ปุ๋ยหมัก, ของตกแต่ง) ปริมาณการใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ใบไม้แห้งที่รวบรวมมาใช้ คุณภาพและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ได้ เช่น ความทนทานของกระดาษ, การตอบสนองของตลาด จำนวนบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่ผลิตและใช้ได้ในโครงการ การประเมิน: การนับจำนวนผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นและตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในระยะเวลาที่กำหนด การทำสำรวจและการประเมินจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ 2. การสร้างรายได้เสริม (เกษตรกรและชาวบ้านสามารถขายผลิตภัณฑ์ใหม่จากใบไม้) ตัวชี้วัด: จำนวนเกษตรกรและชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการและสามารถขายผลิตภัณฑ์จากใบไม้แห้ง จำนวนรายได้ที่เกิดขึ้นจากการขายผลิตภัณฑ์ใหม่ (เช่น กระดาษ, ปุ๋ยหมัก, ของตกแต่ง) จำนวนการจัดตั้งจุดขายในชุมชนหรือการขยายตลาด ปริมาณการจำหน่ายและผลตอบรับจากลูกค้า การประเมิน: ตรวจสอบรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์และการขยายตลาด การสำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรและชาวบ้านเกี่ยวกับผลลัพธ์ของโครงการ 3. ความรู้และทักษะใหม่ (ชุมชนได้รับความรู้ในการแปรรูปและการจัดการขยะ) ตัวชี้วัด: จำนวนเยาวชน, เกษตรกร, หรือสมาชิกชุมชนที่เข้าร่วมการฝึกอบรม ความรู้และทักษะใหม่ที่สมาชิกชุมชนได้รับจากการอบรม เช่น การแปรรูปวัสดุธรรมชาติ การทำปุ๋ยหมัก การประยุกต์ใช้ความรู้ใหม่ในชีวิตประจำวันและกิจกรรมในชุมชน การสังเกตการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมและวิธีการจัดการขยะในชุมชน การประเมิน: การประเมินความรู้และทักษะของผู้เข้าร่วมหลังการอบรม การติดตามผลกระทบจากการนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน 4. การสร้างอาชีพใหม่ (โครงการนี้จะช่วยให้เกิดการสร้างงานใหม่ในชุมชน) ตัวชี้วัด: จำนวนงานใหม่ที่เกิดขึ้นจากโครงการ เช่น ตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปใบไม้ การขายผลิตภัณฑ์ หรือการจัดการโครงการ จำนวนสมาชิกในชุมชนที่ได้รับการจ้างงานในโครงการ การสร้างโอกาสในการทำงานสำหรับเยาวชนและผู้ที่ตกงานในพื้นที่ การเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปใบไม้แห้งในระยะยาว การประเมิน: จำนวนผู้ที่ได้รับการจ้างงานใหม่ในโครงการ การสำรวจการมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างงานใหม่ 1. ผลิตภัณฑ์จากใบไม้ จำนวนเริ่มต้น: 0 ชิ้น (ยังไม่เคยมีการผลิต) จำนวนเป้าหมาย: กระดาษจากใบไม้: 500 แผ่น ปุ๋ยหมัก: 300 กิโลกรัม ของตกแต่ง: 100 ชิ้น บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก: 200 ชิ้น 2. การสร้างรายได้เสริม จำนวนเริ่มต้น: 0 บาท / ไม่มีครัวเรือนที่มีรายได้จากผลิตภัณฑ์นี้ จำนวนเป้าหมาย: ครัวเรือนที่มีรายได้จากผลิตภัณฑ์ใบไม้: 20 ครัวเรือน รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนจากผลิตภัณฑ์ใบไม้: 1,500 บาท/เดือน ภายใน 6 เดือนแรก 3. ความรู้และทักษะใหม่ จำนวนเริ่มต้น: 0 คน (ยังไม่เริ่มอบรม) จำนวนเป้าหมาย: สมาชิกชุมชนที่เข้าร่วมอบรม: 100 คน (รวมเยาวชน, ครู, เกษตรกร) ผู้ที่สามารถแปรรูปผลิตภัณฑ์ได้จริงหลังอบรม: 70 คน 4. การสร้างอาชีพใหม่ จำนวนเริ่มต้น: 0 ตำแหน่ง จำนวนเป้าหมาย: จำนวนอาชีพใหม่ (ทั้งเต็มเวลาและพาร์ทไทม์): 10 ตำแหน่ง (เช่น คนผลิต คนขาย คนสอน คนออกแบบผลิตภัณฑ์) เยาวชนหรือคนว่างงานที่ได้รับการจ้างงานหรือเริ่มต้นธุรกิจจากโครงการ: 5 คน | 0 | 0 | 0 | |
🔎 ตัวชี้วัดผลลัพธ์ระยะสั้น – ระยะกลาง 1. ✅ การเพิ่มรายได้ในชุมชน ความหมาย: ครัวเรือนในชุมชนมีรายได้เพิ่มจากผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากใบไม้ จำนวนเริ่มต้น: 0 บาท / ไม่มีรายได้จากใบไม้ เป้าหมาย: จำนวนครัวเรือนที่มีรายได้: 20 ครัวเรือน รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนจากผลิตภัณฑ์ใบไม้: 1,500–3,000 บาท/เดือน วิธีวัดผล: บันทึกการขายผลิตภัณฑ์, แบบสอบถามรายได้ 2. 🏭 การลดมลพิษทางอากาศ ความหมาย: ลดการเผาใบไม้ที่ก่อให้เกิด PM2.5 จำนวนเริ่มต้น: ใบไม้ในพื้นที่ถูกเผาเกือบทั้งหมด (เช่น 100%) เป้าหมาย: ลดการเผาใบไม้ลงอย่างน้อย 70% ภายใน 6 เดือน เพิ่มการนำใบไม้เข้าสู่กระบวนการแปรรูปอย่างน้อย 1,000 กิโลกรัม วิธีวัดผล: สำรวจพฤติกรรมชุมชน, ประเมินการเก็บรวบรวมใบไม้ 3. 🌱 การสร้างการรับรู้และเปลี่ยนพฤติกรรม ความหมาย: ชุมชนเริ่มเห็นคุณค่าและใช้ประโยชน์จากใบไม้แห้ง จำนวนเริ่มต้น: การรับรู้แทบไม่มี / มองว่าเป็นขยะ เป้าหมาย: คนในชุมชนอย่างน้อย 80 คน ตระหนักและเปลี่ยนพฤติกรรมในการจัดการใบไม้ โรงเรียนอย่างน้อย 1 แห่ง บรรจุกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับการแปรรูปใบไม้ลงในหลักสูตร วิธีวัดผล: แบบสอบถามก่อน–หลังโครงการ, สัมภาษณ์เชิงลึก, สังเกตพฤติกรรม 4. 🧩 การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชน ความหมาย: การร่วมมือระหว่างกลุ่มต่างๆ ในชุมชน เช่น เกษตรกร โรงเรียน หน่วยงานท้องถิ่น จำนวนเริ่มต้น: การทำงานแยกส่วน, ไม่ประสานงานกัน เป้าหมาย: กิจกรรมร่วมกันระหว่างหน่วยงาน/กลุ่มอย่างน้อย 5 กิจกรรม (เช่น อบรม, เวิร์กชอป, ตลาดชุมชน) มีคณะทำงานร่วมชุมชนอย่างน้อย 1 กลุ่ม ที่ดูแลโครงการ วิธีวัดผล: รายงานกิจกรรม, สัมภาษณ์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง | 0 | 0 | 0 |