The Next Forest ผู้ให้บริการเป็นที่ปรึกษา ดำเนินการ รวมถึงวัดผลการปลูกและฟื้นฟูป่าด้วยองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ชีวภาพที่มุ่งฟื้นฟูป่าอย่างยั่งยืน เพื่อให้มีทุนสำหรับการดูแลพื้นที่ป่าได้อย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ รวมทั้งออกแบบและวางแผนเพื่อให้เจ้าของพื้นที่และบุคคลทั่วไปได้รับประโยชน์จากพื้นที่ป่าฟื้นฟูในอนาคต
ประเทศไทยกำลังเผชิญกับอัตราการตัดไม้ทำลายป่าสูงสุดในรอบทศวรรษ โดยสูญเสียพื้นที่ป่าไปประมาณ 317,819 ไร่ ระหว่างปี พ.ศ. 2565 ถึง พ.ศ. 2566 อันเนื่องมาจากการขยายตัวของภาคเกษตรกรรม การขยายตัวของเมือง และไฟป่าที่รุนแรง การสูญเสียพื้นที่ป่านี้ช่วยลดการดูดซับคาร์บอน เร่งภาวะโลกร้อน ทำลายอุณหภูมิ ทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ เพิ่มความเสี่ยงต่อภัยพิบัติ และเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ป่าเหลืออยู่เพียงประมาณ 101 ล้านไร่ และตั้งเป้าที่จะฟื้นฟูพื้นที่ป่าให้ครอบคลุม 40% ของพื้นที่ทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2580 ซึ่งต้องใช้พื้นที่กว่า 27 ล้านไร่ในการฟื้นฟู อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการฟื้นฟูต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ เช่น การใช้พันธุ์พืชที่ไม่เหมาะสมหรือชนิดพันธุ์ต่างถิ่น ความหลากหลายของต้นไม้ต่ำ และการบำรุงรักษาที่ไม่ดี ซึ่งนำไปสู่อัตราการตายที่สูงของต้นไม้ที่ปลูก หากไม่แก้ไขปัญหาเหล่านี้ การลดลงของพื้นที่ป่าอย่างต่อเนื่องจะยิ่งส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ คุกคามความมั่นคงทางอาหาร และเพิ่มความยากจนในชุมชนท้องถิ่น
The Next Forest มุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูป่าอย่างยั่งยืนที่สนับสนุนทั้งระบบนิเวศและชุมชนท้องถิ่น โดยใช้วิธีการจัดประเภทพันธุ์ไม้กรอบ (FSM) เพื่อฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรมด้วยต้นไม้พื้นเมือง เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางระบบนิเวศ การมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในหรือใกล้ป่าชุมชนและอุทยานแห่งชาติในการดูแลรักษาพื้นที่ปลูกป่าใหม่ ไม่เพียงแต่รับประกันความอยู่รอดของต้นไม้และการฟื้นฟูพื้นที่ป่าอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจและโอกาสในการดำรงชีพอีกด้วย พื้นที่ปลูกป่าจะได้รับการบำรุงรักษาอย่างน้อยสองปีหลังการปลูก โดยมีการติดตามผลประโยชน์ของระบบนิเวศหลายประการ เช่น การกักเก็บคาร์บอน การผลิตออกซิเจน การฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ การกักเก็บน้ำ และการควบคุมการพังทลายของดิน ด้วยแนวทางแบบองค์รวมนี้ The Next Forest มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในความพยายามปลูกป่าใหม่ในประเทศไทยและการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม
: 12
: 0.00
: จุฑาธิป ใจนวล
(CEO)
15.1 By 2020, ensure the conservation, restoration and sustainable use of terrestrial and inland freshwater ecosystems and their services, in particular forests, wetlands, mountains and drylands, in line with obligations under international agreements
พื้นที่ป่าที่ได้รับการฟื้นฟู | ไร่ | 100 | ||
อัตรการอยู่รอดของต้นไม้ (survival rate) | % | 80 | ||
อัตราการเติบโต (growth rate) *วัดจากความสูงของต้นไม้ crown width,etc. | 1) 2 สัปดาห์หลังการปลูก 2) เทียบหลังหน้าฝนปีแรกและปีที่สอง | |||
จำนวนชุมชนที่มีส่วนร่วมในการฟื้นฟูป่า | ชุมชน | 50 | ||
มีกติกาชุมชนในการดูแลป่า | ||||
ชาวบ้านในชุมชนมีรายได้เสริมเพิ่มขึ้น | บาท/เดือน/คน | 2000 | ||
ปริมาณคาร์บอนที่ถูกกักเก็บ | ตันคาร์บอน/ไร่ | |||
อัตราการดูดซับ CO2 ในชั้นบรรยากาศ | ตัน CO2/ไร่ | |||
พื้นที่ป่าไม้ในพื้นที่โครงการจำนวนชนิดสัตว์ป่าที่พบ / จำนวนสัตว์ป่ำที่มีควำมสำคัญต่อระบบนิเวศ(keystone species) ในพื้นที่โครงการ (NIA) / The number of wildlife species / keystone species discovered in the project forest area (SDGs) | ||||
พื้นที่ฟื้นฟูยังคงเป็นพื้นที่ป่าในระยะเวลา 10 ปี | ||||
พื้นที่ป่าเดิมที่ชุมชนดูแลอยู่ยังคงมีพื้นที่เท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น | ไร่ | |||
รายได้เพิ่มขึ้น | บาท |