Impact Flow   beta  
<

ใบไม้แห้งสู่คุณค่าที่ยั่งยืน (dry leaves to sustainable value)

ประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตเมืองและชุมชนเกษตรกรรม มีฤดูกาลที่ใบไม้ร่วงจำนวนมากทุกปี ซึ่งมักถูกมองว่าเป็น "ขยะธรรมชาติ" ที่ต้องกำจัดอย่างเร่งด่วน แต่การกำจัดด้วยการเผา ก่อให้เกิดฝุ่นควัน PM2.5 ซึ่งเป็นภัยเงียบที่กระทบทั้งสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยตรง ในขณะเดียวกัน ใบไม้แห้งเหล่านี้กลับมีศักยภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วัตถุดิบทางชีวภาพ เช่น ปุ๋ยหมัก กระดาษทำมือ บรรจุภัณฑ์ธรรมชาติ งานหัตถกรรม ฯลฯ ซึ่งหากมีองค์ความรู้ การจัดการ และตลาดรองรับที่ดี ก็สามารถสร้าง "ของมีค่า" และรายได้ให้กับชุมชนได้ โครงการนี้จึงเกิดจากการมอง “ของที่ทุกคนมองข้าม” แล้วคืนคุณค่าให้ธรรมชาติ ผ่านการสร้างนวัตกรรมชุมชนที่เรียบง่ายแต่มีพลัง 🌱 ความยั่งยืนของโครงการเกิดขึ้นได้อย่างไร เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) นำวัสดุเหลือทิ้ง (ใบไม้แห้ง) มาใช้ซ้ำ ลดของเสีย และสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ สร้างโมเดลรายได้จากธรรมชาติที่ไม่ต้องใช้ต้นทุนวัตถุดิบสูง ถ่ายทอดความรู้ท้องถิ่น (Local Knowledge Transfer) มีการจัดอบรม การสาธิต และเวิร์กช็อปการแปรรูปใบไม้ให้กับคนในชุมชน สร้าง “ชุมชนผู้รู้” ที่สามารถต่อยอดได้ด้วยตัวเอง เชื่อมโยงตลาดและแบรนด์ท้องถิ่น พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีเรื่องราวจากท้องถิ่น และตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจโลก ส่งเสริมการขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างวัดผลได้ ลดการเผา ลดฝุ่นควัน และคืนคุณภาพอากาศให้ชุมชน สร้างพื้นที่สีเขียวที่สะอาดและมีการจัดการอย่างยั่งยืน

ใบไม้แห้งถูกมองว่าไร้ค่า เป็นขยะที่ต้องเผาหรือกวาดทิ้ง เพิ่มปัญหามลพิษฝุ่นควัน และเสียโอกาสในการสร้างรายได้ให้ชุมชน 🔍 ปัญหาหลัก: ใบไม้แห้งจำนวนมากถูกเผาทิ้ง → เกิดฝุ่น PM2.5 คนมองว่าใบไม้ไม่มีค่า → ขาดแรงจูงใจในการเก็บหรือใช้ ไม่มีระบบจัดการหรือความรู้ในการแปรรูป → ทรัพยากรถูกทิ้งไป ชุมชนขาดช่องทางตลาดหรือการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง จึงเป็น ปัญหา (Pain Point) ของใบไม้แห้ง: 1. มุมสิ่งแวดล้อม: ใบไม้แห้งถูกจัดเป็น "ขยะชีวมวล" ที่หลายคนเลือก "เผา" เพราะกำจัดง่ายและเร็ว การเผาใบไม้ทำให้เกิด ฝุ่นควันและ PM2.5 ที่เป็นปัญหาสำคัญในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในฤดูแล้ง มลพิษที่เกิดขึ้นมีผลต่อสุขภาพโดยตรง เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ หอบหืด และโรคหัวใจ ใบไม้ที่ถูกทิ้งไม่ได้ถูกนำกลับเข้าสู่ระบบธรรมชาติ ทั้งที่จริงแล้วมันสามารถเป็น ปุ๋ยธรรมชาติหรือวัตถุดิบแปรรูปได้ 2. มุมเศรษฐกิจ: ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่แล้วฟรีๆ เช่นใบไม้ ไม่ถูกใช้ให้เกิด “มูลค่าเพิ่ม” ชุมชนขาดองค์ความรู้หรือเครื่องมือในการแปรรูปให้เป็นสินค้า มีโอกาสสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ ใช้เรื่อง “ความยั่งยืน” เป็นจุดขายได้ แต่ยังไม่มีการเชื่อมต่อกับตลาด 3. มุมสังคมและพฤติกรรม: คนส่วนใหญ่ไม่เห็นว่า “ใบไม้แห้งมีคุณค่า” เพราะถูกมองว่าเป็นขยะ มีความเคยชินแบบดั้งเดิม เช่น “ฤดูใบไม้ร่วงก็ต้องเผาอยู่แล้ว” ขาดระบบหรือพื้นที่ให้คนในชุมชนจัดการใบไม้ร่วมกัน เช่น จุดรวบรวม จุดแปรรูป หรือศูนย์เรียนรู้

สร้างกระบวนการเก็บ รวบรวม และแปรรูปใบไม้แห้งเป็นสินค้าสร้างสรรค์ เช่น บรรจุภัณฑ์ชีวภาพ กระดาษรีไซเคิล งานหัตถกรรม หรือปุ๋ยหมักพรีเมียม เพราะ ใบไม้แห้งไม่ใช่ขยะ แต่เป็นโอกาส 🧭 แนวทางการแก้ไข (Solutions) 1. จัดตั้งศูนย์เรียนรู้หรือศูนย์จัดการใบไม้ในชุมชน (Leaf Lab / Leaf Hub) เป็นจุดรับ-แปรรูป-จำหน่ายใบไม้แห้ง ให้บริการอบรม ทำเวิร์กช็อป เช่น การทำกระดาษใบไม้ บรรจุภัณฑ์ ปุ๋ยหมัก งานคราฟต์ เชื่อมโยงกับโรงเรียน ชมรมผู้สูงอายุ และกลุ่มแม่บ้านในพื้นที่ 2. สร้างโมเดล “เก็บ–เปลี่ยน–ขาย” (Collect – Convert – Commerce) เก็บ: ตั้งจุดรับใบไม้ตามชุมชน และสนับสนุนให้ประชาชนเก็บมาส่ง แลกแต้ม/รายได้ เปลี่ยน: ใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น เครื่องอัดกระดาษ, การย้อมสีธรรมชาติ ขาย: ตั้งแบรนด์สินค้าเน้นคุณค่าทางสิ่งแวดล้อม พร้อมเล่าเรื่องราวเพื่อเพิ่มมูลค่า 3. พัฒนาโปรแกรมสนับสนุนจากภาครัฐ/เอกชน/CSR ขอทุนสนับสนุนเริ่มต้น (seed funding) เพื่อสร้างต้นแบบ จับมือกับหน่วยงานที่สนใจด้าน Green Innovation, SDG หรือเศรษฐกิจพอเพียง 4. สร้างผลิตภัณฑ์ที่ “เล่าเรื่อง” ได้ เช่น: สมุดจากกระดาษใบไม้, บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก, กระเป๋า/ของใช้ตกแต่ง สื่อสารผ่านโซเชียลว่า “ใบไม้แห้งของคุณ ไม่ได้จบที่เตาเผา แต่มาอยู่บนโต๊ะทำงานของคนทั่วโลก” 5. สร้างแรงจูงใจและการเปลี่ยนทัศนคติ ทำแคมเปญสร้างสรรค์ เช่น “1 ใบไม้ = 1 โอกาส” ประกวดไอเดียการใช้ใบไม้ในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย ทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์สายสิ่งแวดล้อมเพื่อขยายพลังการรับรู้

:    6
:      0.00

:         มณีรัตน์ บุญสินธุ์ (ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ)


1.เป้าหมายหลัก “ยกระดับคุณค่าทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของใบไม้แห้ง โดยเปลี่ยนให้เป็นผลิตภัณฑ์สร้างรายได้และลดมลพิษให้ชุมชนอย่างยั่งยืน” โครงการนี้ช่วยสร้างระบบ เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยใช้ใบไม้แห้ง—ซึ่งมักเป็นของเหลือทิ้ง—มาแปรรูปให้เกิดมูลค่าใหม่ ลดของเสีย ลดการเผา และเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรให้ยั่งยืนมากขึ้น เกี่ยวข้องโดยตรงกับ: 12.5 ลดปริมาณของเสียโดยการป้องกัน ลด ใช้ซ้ำ และรีไซเคิล 12.8 ให้คนมีความเข้าใจด้านการบริโภคที่ยั่งยืน 2. เป้าหมายรอง (Sub-Goals) แยกได้ประมาณนี้: 2.1.เป้าหมายเชิงเศรษฐกิจ -สร้างรายได้ให้คนในชุมชนไม่น้อยกว่า XX บาท/ปี จากผลิตภัณฑ์ใบไม้แห้ง -พัฒนาแบรนด์สินค้าท้องถิ่นที่มีใบไม้เป็นวัตถุดิบหลักให้มีช่องทางขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ 2.2.เป้าหมายเชิงสิ่งแวดล้อม -ลดการเผาใบไม้ในพื้นที่เป้าหมายอย่างน้อย XX% ภายใน 1 ปี -เปลี่ยนใบไม้แห้งอย่างน้อย XX ตัน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ซ้ำได้ 2.3.เป้าหมายเชิงสังคมและความรู้ -ฝึกอบรม/ถ่ายทอดความรู้การแปรรูปใบไม้ให้กับคนในชุมชนอย่างน้อย XX คน -ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรท้องถิ่นอย่างสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมกับเยาวชน/โรงเรียน

Goal 12: Responsible Consumption and Production
Goal 12: Responsible Consumption and Production

12.5 By 2030, substantially reduce waste generation through prevention, reduction, recycling and reuse

12.8 By 2030, ensure that people everywhere have the relevant information and awareness for sustainable development and lifestyles in harmony with nature

การลดการเผาใบไม้ = ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและฝุ่นควัน PM2.5 ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการใหญ่ของโลกร้อนและปัญหาสุขภาพ

Goal 13: Climate Action
Goal 13: Climate Action

โปรเจกต์นี้ช่วยให้ชุมชนมีการจัดการของเสียในพื้นที่ได้ดีขึ้น เพิ่มพื้นที่สีเขียวที่สะอาด และสร้างโมเดลอาชีพจากทรัพยากรท้องถิ่น

Goal 11: Sustainable Cities and Communities
Goal 11: Sustainable Cities and Communities

การแปรรูปใบไม้สร้างงานใหม่ให้กับชุมชน ทั้งสายเก็บ รวบรวม ออกแบบ แปรรูป ขาย ฯลฯ เป็นงานที่ใช้ฝีมือและองค์ความรู้แบบท้องถิ่น

Goal 8: Decent Work and Economic Growth
Goal 8: Decent Work and Economic Growth



   

ชาวบ้าน/เกษตรกรในพื้นที่

    กลุ่มชาวบ้านและเกษตรกรในพื้นที่จัดเป็นผู้มีส่วนได้เสียที่มีความสำคัญที่สุดของโครงการ เนื่องจากมีบทบาทในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดการทรัพยากรธรรมชาติไปจนถึงการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ พวกเขาเป็นทั้งผู้ขับเคลื่อน ผู้ได้รับผลประโยชน์ และผู้รักษาความยั่งยืนของโครงการนี้ในระยะยาว อาทิ 1. ลุงสมพร – เกษตรกรสวนลำไย จ.เชียงใหม่ มีต้นไม้ในสวนกว่า 50 ต้น ใบไม้ร่วงเฉลี่ยวันละหลายสิบกิโล เคยเผาใบไม้เพื่อลดปริมาณ ทำให้ถูกตำหนิจากชุมชน และมีปัญหาสุขภาพเรื่องหอบหืด อยากมีวิธีจัดการที่ไม่สร้างควันและอาจมีรายได้เสริม เพราะเป็นเกษตรกรฤดูกาล 2. ป้าแต๋ว – แม่บ้านในชุมชน จ.ขอนแก่น อาศัยในเขตชุมชนเมือง มีต้นไม้ใหญ่รอบบ้าน ใบไม้ร่วงเต็มหน้าบ้านทุกวัน ทิ้งใส่ถุงดำไปกับขยะทั่วไป ไม่มีระบบคัดแยก หรือโอกาสในการนำมาใช้ใหม่ อยากมีอาชีพเสริมทำงานฝีมือ แต่ไม่มีต้นทุนหรือตลาดรองรับ 3. ครูใหม่ – ครูประจำโรงเรียนชนบท จ.นครราชสีมา โรงเรียนมีต้นไม้รอบรั้ว ใบไม้เยอะ แต่เด็กนักเรียนและครูไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรได้ เคยทำปุ๋ยหมักบ้างแต่ไม่ต่อเนื่อง ไม่มีใครมาให้ความรู้ อยากให้เด็กเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมผ่านของที่จับต้องได้ ไม่ใช่แค่ท่อง SDG 🗺️ พื้นที่ที่ประสบปัญหาใบไม้แห้งจำนวนมาก 📍 อำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่เกษตร+ป่าเมือง มีบ้านเรือนปกคลุมด้วยต้นไม้เยอะ ช่วงฤดูหนาวถึงแล้ง ใบไม้ร่วงมาก มีการเผาในพื้นที่ ทำให้ฝุ่นควันสะสม เหมาะกับการนำใบไม้มาทำปุ๋ย หรือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น กระดาษ/ของตกแต่ง 📍 เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เป็นเขตเมืองกึ่งชนบท มีสวนและต้นไม้ในบ้านคนจำนวนมาก ใบไม้แห้งเป็นปัญหาทุกเช้า กลุ่มคนในพื้นที่ไม่มีระบบจัดการหรือแนวทางการใช้ซ้ำ เหมาะกับโครงการแนว Zero Waste Urban ที่เชื่อมโยงกับชุมชนเมือง 📍 ตำบลโนนเมือง จ.ขอนแก่น ชุมชนเกษตรกรรมที่มีต้นไม้ริมถนนและในสวนบ้านจำนวนมาก ขาดองค์ความรู้ในการแปรรูปวัสดุจากธรรมชาติ และไม่มีตลาดในพื้นที่ เหมาะกับการทดลอง Leaf Hub หรือศูนย์เรียนรู้ชุมชน เพราะบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาใบไม้แห้ง ได้แก่ เกษตรกรที่เผาใบไม้จนส่งผลต่อสุขภาพ ชาวบ้านที่ขาดทางเลือกในการจัดการขยะธรรมชาติ และครูหรือเยาวชนที่ขาดโอกาสในการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง ขณะที่พื้นที่ที่เหมาะสมกับการนำร่องโครงการ ได้แก่ พื้นที่กึ่งชนบทหรือชุมชนเกษตรกรรม เช่น อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เขตคลองสามวา กทม. และ ต.โนนเมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งมีปริมาณใบไม้แห้งจำนวนมากและขาดระบบจัดการที่ยั่งยืน
   
    
     ❗ ปัญหา ชาวบ้าน / เกษตรกร - ใบไม้แห้งมาก → เผาทิ้ง - ขาดความรู้ในการแปรรูป - ไม่มีรายได้จากของเหลือ โอกาส - มีวัสดุจำนวนมาก → ต้นทุนต่ำ - สร้างอาชีพเสริมในฤดูว่าง - เรียนรู้ทักษะใหม่ ความท้าทาย - ต้องปรับตัวกับเทคโนโลยีหรือกระบวนการใหม่ - อาจยังไม่เห็น “คุณค่า” ของใบไม้ - ขาดแรงจูงใจระยะยาว

1.อบรมการแปรรูปใบไม้: การสอนวิธีทำกระดาษ, ปุ๋ยหมัก, หรือของตกแต่งจากใบไม้ 2.สร้างตลาดและช่องทางการขาย: ผ่านออนไลน์ หรือส่งเสริมการขายภายในชุมชน 3.กิจกรรมเชื่อมโยงกับโรงเรียน: ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม 4.สร้างโมเดลต้นแบบ: ศูนย์เรียนรู้ในชุมชน หรือสถานที่ที่สามารถแปรรูปวัสดุจากใบไม้ได้

1.ผลิตภัณฑ์จากใบไม้: กระดาษจากใบไม้, ปุ๋ยหมัก, ของตกแต่ง, บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก 2.การสร้างรายได้เสริม: เกษตรกรและชาวบ้านสามารถขายผลิตภัณฑ์ใหม่จากใบไม้ 3.ความรู้และทักษะใหม่: ชุมชนได้รับความรู้ในการแปรรูปและการจัดการขยะ 4.การสร้างอาชีพใหม่: โครงการนี้จะช่วยให้เกิดการสร้างงานใหม่ในชุมชน

  
1. ผลิตภัณฑ์จากใบไม้ (กระดาษจากใบไม้, ปุ๋ยหมัก, ของตกแต่ง, บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก) ตัวชี้วัด: จำนวนผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากใบไม้แห้งที่ผลิตได้ (เช่น กระดาษ, ปุ๋ยหมัก, ของตกแต่ง) ปริมาณการใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ใบไม้แห้งที่รวบรวมมาใช้ คุณภาพและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ได้ เช่น ความทนทานของกระดาษ, การตอบสนองของตลาด จำนวนบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่ผลิตและใช้ได้ในโครงการ การประเมิน: การนับจำนวนผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นและตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในระยะเวลาที่กำหนด การทำสำรวจและการประเมินจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ 2. การสร้างรายได้เสริม (เกษตรกรและชาวบ้านสามารถขายผลิตภัณฑ์ใหม่จากใบไม้) ตัวชี้วัด: จำนวนเกษตรกรและชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการและสามารถขายผลิตภัณฑ์จากใบไม้แห้ง จำนวนรายได้ที่เกิดขึ้นจากการขายผลิตภัณฑ์ใหม่ (เช่น กระดาษ, ปุ๋ยหมัก, ของตกแต่ง) จำนวนการจัดตั้งจุดขายในชุมชนหรือการขยายตลาด ปริมาณการจำหน่ายและผลตอบรับจากลูกค้า การประเมิน: ตรวจสอบรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์และการขยายตลาด การสำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรและชาวบ้านเกี่ยวกับผลลัพธ์ของโครงการ 3. ความรู้และทักษะใหม่ (ชุมชนได้รับความรู้ในการแปรรูปและการจัดการขยะ) ตัวชี้วัด: จำนวนเยาวชน, เกษตรกร, หรือสมาชิกชุมชนที่เข้าร่วมการฝึกอบรม ความรู้และทักษะใหม่ที่สมาชิกชุมชนได้รับจากการอบรม เช่น การแปรรูปวัสดุธรรมชาติ การทำปุ๋ยหมัก การประยุกต์ใช้ความรู้ใหม่ในชีวิตประจำวันและกิจกรรมในชุมชน การสังเกตการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมและวิธีการจัดการขยะในชุมชน การประเมิน: การประเมินความรู้และทักษะของผู้เข้าร่วมหลังการอบรม การติดตามผลกระทบจากการนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน 4. การสร้างอาชีพใหม่ (โครงการนี้จะช่วยให้เกิดการสร้างงานใหม่ในชุมชน) ตัวชี้วัด: จำนวนงานใหม่ที่เกิดขึ้นจากโครงการ เช่น ตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปใบไม้ การขายผลิตภัณฑ์ หรือการจัดการโครงการ จำนวนสมาชิกในชุมชนที่ได้รับการจ้างงานในโครงการ การสร้างโอกาสในการทำงานสำหรับเยาวชนและผู้ที่ตกงานในพื้นที่ การเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปใบไม้แห้งในระยะยาว การประเมิน: จำนวนผู้ที่ได้รับการจ้างงานใหม่ในโครงการ การสำรวจการมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างงานใหม่ 1. ผลิตภัณฑ์จากใบไม้ จำนวนเริ่มต้น: 0 ชิ้น (ยังไม่เคยมีการผลิต) จำนวนเป้าหมาย: กระดาษจากใบไม้: 500 แผ่น ปุ๋ยหมัก: 300 กิโลกรัม ของตกแต่ง: 100 ชิ้น บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก: 200 ชิ้น 2. การสร้างรายได้เสริม จำนวนเริ่มต้น: 0 บาท / ไม่มีครัวเรือนที่มีรายได้จากผลิตภัณฑ์นี้ จำนวนเป้าหมาย: ครัวเรือนที่มีรายได้จากผลิตภัณฑ์ใบไม้: 20 ครัวเรือน รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนจากผลิตภัณฑ์ใบไม้: 1,500 บาท/เดือน ภายใน 6 เดือนแรก 3. ความรู้และทักษะใหม่ จำนวนเริ่มต้น: 0 คน (ยังไม่เริ่มอบรม) จำนวนเป้าหมาย: สมาชิกชุมชนที่เข้าร่วมอบรม: 100 คน (รวมเยาวชน, ครู, เกษตรกร) ผู้ที่สามารถแปรรูปผลิตภัณฑ์ได้จริงหลังอบรม: 70 คน 4. การสร้างอาชีพใหม่ จำนวนเริ่มต้น: 0 ตำแหน่ง จำนวนเป้าหมาย: จำนวนอาชีพใหม่ (ทั้งเต็มเวลาและพาร์ทไทม์): 10 ตำแหน่ง (เช่น คนผลิต คนขาย คนสอน คนออกแบบผลิตภัณฑ์) เยาวชนหรือคนว่างงานที่ได้รับการจ้างงานหรือเริ่มต้นธุรกิจจากโครงการ: 5 คน

0 0

0 0

1.อบรมการแปรรูปใบไม้: การสอนวิธีทำกระดาษ, ปุ๋ยหมัก, หรือของตกแต่งจากใบไม้ 2.สร้างตลาดและช่องทางการขาย: ผ่านออนไลน์ หรือส่งเสริมการขายภายในชุมชน 3.กิจกรรมเชื่อมโยงกับโรงเรียน: ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม 4.สร้างโมเดลต้นแบบ: ศูนย์เรียนรู้ในชุมชน หรือสถานที่ที่สามารถแปรรูปวัสดุจากใบไม้ได้

ผลลัพธ์ระยะสั้น – ระยะกลาง 1.การเพิ่มรายได้ในชุมชน: ชาวบ้านมีแหล่งรายได้ใหม่จากการแปรรูปใบไม้ 2.การลดมลพิษทางอากาศ: ลดการเผาใบไม้ที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 3.การสร้างการรับรู้และการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรม: ชุมชนเริ่มหันมามองใบไม้แห้งในมุมใหม่ว่าเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า 4.การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชน: การทำงานร่วมกันระหว่างเกษตรกร ชุมชน โรงเรียน และหน่วยงานท้องถิ่น

  
🔎 ตัวชี้วัดผลลัพธ์ระยะสั้น – ระยะกลาง 1. ✅ การเพิ่มรายได้ในชุมชน ความหมาย: ครัวเรือนในชุมชนมีรายได้เพิ่มจากผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากใบไม้ จำนวนเริ่มต้น: 0 บาท / ไม่มีรายได้จากใบไม้ เป้าหมาย: จำนวนครัวเรือนที่มีรายได้: 20 ครัวเรือน รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนจากผลิตภัณฑ์ใบไม้: 1,500–3,000 บาท/เดือน วิธีวัดผล: บันทึกการขายผลิตภัณฑ์, แบบสอบถามรายได้ 2. 🏭 การลดมลพิษทางอากาศ ความหมาย: ลดการเผาใบไม้ที่ก่อให้เกิด PM2.5 จำนวนเริ่มต้น: ใบไม้ในพื้นที่ถูกเผาเกือบทั้งหมด (เช่น 100%) เป้าหมาย: ลดการเผาใบไม้ลงอย่างน้อย 70% ภายใน 6 เดือน เพิ่มการนำใบไม้เข้าสู่กระบวนการแปรรูปอย่างน้อย 1,000 กิโลกรัม วิธีวัดผล: สำรวจพฤติกรรมชุมชน, ประเมินการเก็บรวบรวมใบไม้ 3. 🌱 การสร้างการรับรู้และเปลี่ยนพฤติกรรม ความหมาย: ชุมชนเริ่มเห็นคุณค่าและใช้ประโยชน์จากใบไม้แห้ง จำนวนเริ่มต้น: การรับรู้แทบไม่มี / มองว่าเป็นขยะ เป้าหมาย: คนในชุมชนอย่างน้อย 80 คน ตระหนักและเปลี่ยนพฤติกรรมในการจัดการใบไม้ โรงเรียนอย่างน้อย 1 แห่ง บรรจุกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับการแปรรูปใบไม้ลงในหลักสูตร วิธีวัดผล: แบบสอบถามก่อน–หลังโครงการ, สัมภาษณ์เชิงลึก, สังเกตพฤติกรรม 4. 🧩 การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชน ความหมาย: การร่วมมือระหว่างกลุ่มต่างๆ ในชุมชน เช่น เกษตรกร โรงเรียน หน่วยงานท้องถิ่น จำนวนเริ่มต้น: การทำงานแยกส่วน, ไม่ประสานงานกัน เป้าหมาย: กิจกรรมร่วมกันระหว่างหน่วยงาน/กลุ่มอย่างน้อย 5 กิจกรรม (เช่น อบรม, เวิร์กชอป, ตลาดชุมชน) มีคณะทำงานร่วมชุมชนอย่างน้อย 1 กลุ่ม ที่ดูแลโครงการ วิธีวัดผล: รายงานกิจกรรม, สัมภาษณ์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

0 0

0 0

1.ผลิตภัณฑ์จากใบไม้: กระดาษจากใบไม้, ปุ๋ยหมัก, ของตกแต่ง, บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก 2.การสร้างรายได้เสริม: เกษตรกรและชาวบ้านสามารถขายผลิตภัณฑ์ใหม่จากใบไม้ 3.ความรู้และทักษะใหม่: ชุมชนได้รับความรู้ในการแปรรูปและการจัดการขยะ 4.การสร้างอาชีพใหม่: โครงการนี้จะช่วยให้เกิดการสร้างงานใหม่ในชุมชน


   

โรงเรียน / เยาวชน

    โรงเรียน ถือเป็นหน่วยงานหลักที่มีบทบาทในการสร้างการรับรู้เรื่องการแปรรูปและการรักษาสิ่งแวดล้อมให้แก่เยาวชน ผลกระทบที่ได้รับ: โรงเรียนสามารถใช้โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียนการสอน เช่น การสอนเรื่องการรีไซเคิลและการจัดการขยะ หรือใช้เป็นโปรเจ็กต์วิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ ความคาดหวัง: สร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและพัฒนาแนวคิดที่ยั่งยืน โรงเรียน / เยาวชน ยังสามารถเป็นตัวกลางในการสร้าง ตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ เช่น การนำผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการแปรรูปใบไม้ไปใช้ในกิจกรรมของโรงเรียน เช่น ของขวัญของที่ระลึก หรือการนำไปขายเพื่อเป็นทุนการศึกษา ผลกระทบที่ได้รับ: โรงเรียนอาจได้รับรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้น หรืออาจใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันในสังคม เยาวชน (นักเรียน) เป็นผู้ที่สามารถมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและทัศนคติในเรื่องการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ พวกเขาคือ อนาคต ของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผลกระทบที่ได้รับ: การเรียนรู้จากโครงการนี้จะทำให้เยาวชนมีความเข้าใจลึกซึ้งในเรื่องสิ่งแวดล้อม และสามารถนำไปปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวัน เช่น การรีไซเคิล หรือการปลูกฝังแนวคิด Zero Waste ความคาดหวัง: สร้างทักษะในการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ การประยุกต์ใช้ทักษะในการทำงานร่วมกับชุมชน รวมถึงเสริมสร้างจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อม เยาวชน ยังสามารถมีบทบาทในการส่งเสริมการทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นหรือภาครัฐ เพื่อขอสนับสนุนในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและการแปรรูปใบไม้ ผลกระทบที่ได้รับ: เยาวชนจะเป็นตัวแทนในการสร้างแรงกระตุ้นในเชิงนโยบาย โดยการร่วมมือกับภาครัฐเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการสร้างโครงการที่ยั่งยืน
   
    
     1. ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น a. การขาดความเข้าใจในกระบวนการ ปัญหา: เยาวชนและโรงเรียนอาจจะไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการแปรรูปใบไม้แห้งหรือการใช้วัสดุธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้การมีส่วนร่วมไม่เต็มที่หรือไม่เกิดผลตามที่คาดหวัง ผลกระทบ: การขาดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมและอาจทำให้กิจกรรมในโรงเรียนไม่เกิดประสิทธิภาพ หรือการแปรรูปใบไม้ไม่ได้ตามเป้าหมาย แนวทางแก้ไข: การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่เยาวชนและครูผู้สอน b. ขาดแรงจูงใจในการเข้าร่วม ปัญหา: เยาวชนอาจขาดแรงจูงใจหรือไม่เห็นความสำคัญของโครงการ ซึ่งอาจทำให้ไม่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ผลกระทบ: การเข้าร่วมโครงการอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้โครงการไม่สามารถขยายผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนวทางแก้ไข: การสร้างแรงจูงใจโดยการเชื่อมโยงกับกิจกรรมที่สนุกสนานหรือให้รางวัล/ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้เข้าร่วมที่มีผลงานดี c. การขาดทรัพยากรและงบประมาณ ปัญหา: โรงเรียนอาจขาดทรัพยากรในการดำเนินโครงการ เช่น อุปกรณ์การเรียนรู้ เครื่องมือในการแปรรูปใบไม้ หรือการจัดกิจกรรมต่างๆ ผลกระทบ: โรงเรียนอาจไม่สามารถจัดกิจกรรมได้ตามที่วางแผนไว้ ทำให้โครงการไม่สามารถดำเนินการได้เต็มที่ แนวทางแก้ไข: การหาทุนสนับสนุนจากองค์กรหรือหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงการขอการสนับสนุนจากชุมชน 2. โอกาสที่เกิดขึ้น a. การเสริมสร้างทักษะด้านสิ่งแวดล้อม โอกาส: เยาวชนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและในการศึกษาต่อ ผลกระทบที่ดี: การสร้างแรงบันดาลใจและความเข้าใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม และการเป็นผู้นำในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในอนาคต แนวทาง: การนำโครงการไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียน b. สร้างรายได้เสริมจากการแปรรูป โอกาส: เยาวชนและโรงเรียนสามารถมีส่วนร่วมในการแปรรูปใบไม้และสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น กระดาษ ปุ๋ยหมัก หรือของตกแต่ง ซึ่งสามารถขายได้ ผลกระทบที่ดี: การเพิ่มแหล่งรายได้ให้กับโรงเรียนหรือชุมชน โดยเฉพาะในกรณีที่โรงเรียนสามารถสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ แนวทาง: การส่งเสริมการสร้างผลิตภัณฑ์จากใบไม้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและหาตลาดขาย c. สร้างการมีส่วนร่วมและการทำงานเป็นทีม โอกาส: การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ จะช่วยให้เยาวชนเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น และการเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงในชุมชน ผลกระทบที่ดี: การพัฒนาทักษะการทำงานร่วมกัน การสื่อสาร และการบริหารจัดการโปรเจ็กต์ แนวทาง: การสร้างกิจกรรมที่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีมและมีการร่วมมือจากหลายภาคส่วนในชุมชน 3. ความท้าทายที่ต้องรับมือ a. ความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ความท้าทาย: การทำให้เยาวชนและครูผู้สอนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้วัสดุธรรมชาติอย่างยั่งยืนและหันมาแปรรูปใบไม้แห้งอาจไม่ง่าย ผลกระทบ: หากพฤติกรรมไม่เปลี่ยนแปลง อาจทำให้โครงการไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนได้ แนวทางแก้ไข: การทำแคมเปญการศึกษาที่มีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เช่น การใช้สื่อดิจิทัล หรือการทำกิจกรรมที่มีส่วนร่วมเพื่อสร้างการรับรู้ b. การขาดการสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก ความท้าทาย: หากไม่มีการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน อาจทำให้โครงการต้องหยุดชะงักหรือไม่ได้รับทรัพยากรที่เพียงพอ ผลกระทบ: การดำเนินการอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย หรือไม่สามารถขยายผลได้ แนวทางแก้ไข: การสร้างความร่วมมือกับองค์กรภาครัฐ เอกชน และผู้สนับสนุนอื่นๆ เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง c. การจัดการเวลาและทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพ ความท้าทาย: เนื่องจากการดำเนินการของโครงการเกี่ยวข้องกับกิจกรรมหลากหลาย เช่น การอบรม การแปรรูป และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ การจัดสรรทรัพยากรและเวลาให้มีประสิทธิภาพเป็นเรื่องที่ท้าทาย ผลกระทบ: หากจัดการเวลาและทรัพยากรไม่ดี อาจทำให้โครงการไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ แนวทางแก้ไข: การวางแผนที่ชัดเจน การติดตามผล และการจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสม

1. การรวบรวมและแปรรูปใบไม้แห้ง รายละเอียดกิจกรรม: เยาวชนจะร่วมกันรวบรวมใบไม้แห้งจากโรงเรียนและชุมชนที่ไม่ได้รับการใช้งาน แล้วนำไปแปรรูปเพื่อใช้ประโยชน์ เช่น การทำกระดาษจากใบไม้แห้ง, การทำปุ๋ยหมัก, หรือการทำของตกแต่งต่างๆ เป้าหมาย: ให้เยาวชนเรียนรู้การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนและช่วยลดปริมาณขยะจากใบไม้แห้ง 2. การฝึกอบรมและการสร้างความรู้ รายละเอียดกิจกรรม: การจัดอบรมให้กับเยาวชนและครูผู้สอนเกี่ยวกับการแปรรูปใบไม้แห้ง, การทำกระดาษ, การทำปุ๋ยหมัก, และวิธีการนำวัสดุธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป้าหมาย: เสริมสร้างความรู้และทักษะในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน 3. การจัดนิทรรศการหรือการแสดงผลงาน รายละเอียดกิจกรรม: การจัดนิทรรศการในโรงเรียนหรือชุมชนเพื่อแสดงผลลัพธ์จากการแปรรูปใบไม้แห้ง และการแนะนำประโยชน์ที่ได้จากการแปรรูปสิ่งเหล่านี้ เป้าหมาย: ส่งเสริมการตระหนักถึงความสำคัญของการรีไซเคิลและการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ 4. การสร้างเครือข่ายและการมีส่วนร่วมจากชุมชน รายละเอียดกิจกรรม: การเชิญชุมชนและผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมของโครงการ เช่น การช่วยรวบรวมใบไม้แห้ง, การจัดกิจกรรมแปรรูป, และการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ เป้าหมาย: สร้างความร่วมมือระหว่างโรงเรียนและชุมชนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสร้างการรับรู้ในระดับกว้าง 5. การสร้างผลิตภัณฑ์จากใบไม้แห้ง รายละเอียดกิจกรรม: การผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากใบไม้แห้ง เช่น กระดาษปุ๋ยหมักของตกแต่ง หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่สามารถจำหน่ายได้ เป้าหมาย: สร้างรายได้ให้กับโรงเรียนและชุมชน รวมถึงการพัฒนาความรู้ในการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6. กิจกรรมการเรียนรู้ภาคสนาม รายละเอียดกิจกรรม: การพาเยาวชนไปศึกษาธรรมชาติในพื้นที่ เช่น การเยี่ยมชมสวนหรือฟาร์มที่ใช้วิธีการจัดการขยะและวัสดุธรรมชาติอย่างยั่งยืน เป้าหมาย: เพิ่มความเข้าใจในกระบวนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในเชิงลึก 7. การติดตามผลและการประเมินโครงการ รายละเอียดกิจกรรม: การติดตามผลการดำเนินโครงการและการประเมินประสิทธิภาพของกิจกรรมต่างๆ เช่น การวัดผลการใช้วัสดุธรรมชาติหรือการประเมินความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้น เป้าหมาย: เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ได้

1. ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากใบไม้แห้ง ผลผลิตทันที: ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการแปรรูปใบไม้แห้ง เช่น กระดาษจากใบไม้, ปุ๋ยหมัก, ของตกแต่งจากใบไม้แห้ง หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ใช้ได้จริง ประโยชน์: สร้างสินค้าที่สามารถใช้ภายในโรงเรียนหรือจำหน่ายในชุมชน สร้างรายได้และลดขยะจากใบไม้แห้ง 2. การเรียนรู้และทักษะใหม่ๆ ของเยาวชน ผลผลิตทันที: เยาวชนได้รับความรู้และทักษะใหม่ๆ เช่น การแปรรูปวัสดุธรรมชาติ การทำกระดาษ การทำปุ๋ยหมัก หรือการสร้างผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้ ประโยชน์: การพัฒนาทักษะด้านสิ่งแวดล้อม การคิดเชิงสร้างสรรค์ และทักษะการทำงานร่วมกัน 3. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผลผลิตทันที: เยาวชนและชุมชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการรวบรวมใบไม้แห้ง การแปรรูป และการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ประโยชน์: สร้างความตระหนักเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 4. การจัดนิทรรศการหรือการแสดงผลงาน ผลผลิตทันที: การจัดนิทรรศการเพื่อแสดงผลงานจากใบไม้แห้งที่แปรรูป เช่น กระดาษ ปุ๋ยหมัก หรือของตกแต่ง ประโยชน์: เพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับการรีไซเคิลและการใช้วัสดุธรรมชาติในชุมชนและโรงเรียน 5. การขยายผลของโครงการในระดับโรงเรียน ผลผลิตทันที: โรงเรียนเริ่มมีการประยุกต์ใช้วิธีการแปรรูปใบไม้แห้งในกิจกรรมการเรียนการสอนและกิจกรรมในชุมชน ประโยชน์: เสริมสร้างการเรียนรู้ในระดับโรงเรียน และกระตุ้นให้เกิดการนำวิธีการเหล่านี้ไปใช้ในโรงเรียนอื่นๆ 6. การสร้างรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ผลผลิตทันที: ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการแปรรูปใบไม้แห้งสามารถนำไปขายในตลาดชุมชน โรงเรียน หรือใช้ภายในโรงเรียนเอง ประโยชน์: สร้างรายได้ให้กับโรงเรียนและชุมชน และส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น

  




1. การรวบรวมและแปรรูปใบไม้แห้ง รายละเอียดกิจกรรม: เยาวชนจะร่วมกันรวบรวมใบไม้แห้งจากโรงเรียนและชุมชนที่ไม่ได้รับการใช้งาน แล้วนำไปแปรรูปเพื่อใช้ประโยชน์ เช่น การทำกระดาษจากใบไม้แห้ง, การทำปุ๋ยหมัก, หรือการทำของตกแต่งต่างๆ เป้าหมาย: ให้เยาวชนเรียนรู้การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนและช่วยลดปริมาณขยะจากใบไม้แห้ง 2. การฝึกอบรมและการสร้างความรู้ รายละเอียดกิจกรรม: การจัดอบรมให้กับเยาวชนและครูผู้สอนเกี่ยวกับการแปรรูปใบไม้แห้ง, การทำกระดาษ, การทำปุ๋ยหมัก, และวิธีการนำวัสดุธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป้าหมาย: เสริมสร้างความรู้และทักษะในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน 3. การจัดนิทรรศการหรือการแสดงผลงาน รายละเอียดกิจกรรม: การจัดนิทรรศการในโรงเรียนหรือชุมชนเพื่อแสดงผลลัพธ์จากการแปรรูปใบไม้แห้ง และการแนะนำประโยชน์ที่ได้จากการแปรรูปสิ่งเหล่านี้ เป้าหมาย: ส่งเสริมการตระหนักถึงความสำคัญของการรีไซเคิลและการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ 4. การสร้างเครือข่ายและการมีส่วนร่วมจากชุมชน รายละเอียดกิจกรรม: การเชิญชุมชนและผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมของโครงการ เช่น การช่วยรวบรวมใบไม้แห้ง, การจัดกิจกรรมแปรรูป, และการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ เป้าหมาย: สร้างความร่วมมือระหว่างโรงเรียนและชุมชนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสร้างการรับรู้ในระดับกว้าง 5. การสร้างผลิตภัณฑ์จากใบไม้แห้ง รายละเอียดกิจกรรม: การผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากใบไม้แห้ง เช่น กระดาษปุ๋ยหมักของตกแต่ง หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่สามารถจำหน่ายได้ เป้าหมาย: สร้างรายได้ให้กับโรงเรียนและชุมชน รวมถึงการพัฒนาความรู้ในการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6. กิจกรรมการเรียนรู้ภาคสนาม รายละเอียดกิจกรรม: การพาเยาวชนไปศึกษาธรรมชาติในพื้นที่ เช่น การเยี่ยมชมสวนหรือฟาร์มที่ใช้วิธีการจัดการขยะและวัสดุธรรมชาติอย่างยั่งยืน เป้าหมาย: เพิ่มความเข้าใจในกระบวนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในเชิงลึก 7. การติดตามผลและการประเมินโครงการ รายละเอียดกิจกรรม: การติดตามผลการดำเนินโครงการและการประเมินประสิทธิภาพของกิจกรรมต่างๆ เช่น การวัดผลการใช้วัสดุธรรมชาติหรือการประเมินความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้น เป้าหมาย: เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ได้

ความตระหนักรู้และการรับรู้ด้านสิ่งแวดล้อม ได้เพิ่มขึ้นในกลุ่มเยาวชนและชุมชน การพัฒนาทักษะการแปรรูปวัสดุธรรมชาติ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์และสร้างรายได้ ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่เกิดจากการขายผลิตภัณฑ์จากใบไม้แห้ง การเสริมสร้างความร่วมมือ และการทำงานเป็นทีมในชุมชน การเสริมสร้างความรู้ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ให้กับโรงเรียนและชุมชน การสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้กับโรงเรียนและชุมชนในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

  





  • 1.เป้าหมายหลัก “ยกระดับคุณค่าทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของใบไม้แห้ง โดยเปลี่ยนให้เป็นผลิตภัณฑ์สร้างรายได้และลดมลพิษให้ชุมชนอย่างยั่งยืน” โครงการนี้ช่วยสร้างระบบ เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยใช้ใบไม้แห้ง—ซึ่งมักเป็นของเหลือทิ้ง—มาแปรรูปให้เกิดมูลค่าใหม่ ลดของเสีย ลดการเผา และเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรให้ยั่งยืนมากขึ้น เกี่ยวข้องโดยตรงกับ: 12.5 ลดปริมาณของเสียโดยการป้องกัน ลด ใช้ซ้ำ และรีไซเคิล 12.8 ให้คนมีความเข้าใจด้านการบริโภคที่ยั่งยืน 2. เป้าหมายรอง (Sub-Goals) แยกได้ประมาณนี้: 2.1.เป้าหมายเชิงเศรษฐกิจ -สร้างรายได้ให้คนในชุมชนไม่น้อยกว่า XX บาท/ปี จากผลิตภัณฑ์ใบไม้แห้ง -พัฒนาแบรนด์สินค้าท้องถิ่นที่มีใบไม้เป็นวัตถุดิบหลักให้มีช่องทางขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ 2.2.เป้าหมายเชิงสิ่งแวดล้อม -ลดการเผาใบไม้ในพื้นที่เป้าหมายอย่างน้อย XX% ภายใน 1 ปี -เปลี่ยนใบไม้แห้งอย่างน้อย XX ตัน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ซ้ำได้ 2.3.เป้าหมายเชิงสังคมและความรู้ -ฝึกอบรม/ถ่ายทอดความรู้การแปรรูปใบไม้ให้กับคนในชุมชนอย่างน้อย XX คน -ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรท้องถิ่นอย่างสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมกับเยาวชน/โรงเรียน
  • การลดการเผาใบไม้ = ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและฝุ่นควัน PM2.5 ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการใหญ่ของโลกร้อนและปัญหาสุขภาพ
  • โปรเจกต์นี้ช่วยให้ชุมชนมีการจัดการของเสียในพื้นที่ได้ดีขึ้น เพิ่มพื้นที่สีเขียวที่สะอาด และสร้างโมเดลอาชีพจากทรัพยากรท้องถิ่น
  • การแปรรูปใบไม้สร้างงานใหม่ให้กับชุมชน ทั้งสายเก็บ รวบรวม ออกแบบ แปรรูป ขาย ฯลฯ เป็นงานที่ใช้ฝีมือและองค์ความรู้แบบท้องถิ่น

1. ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากใบไม้แห้ง ผลผลิตทันที: ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการแปรรูปใบไม้แห้ง เช่น กระดาษจากใบไม้, ปุ๋ยหมัก, ของตกแต่งจากใบไม้แห้ง หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ใช้ได้จริง ประโยชน์: สร้างสินค้าที่สามารถใช้ภายในโรงเรียนหรือจำหน่ายในชุมชน สร้างรายได้และลดขยะจากใบไม้แห้ง 2. การเรียนรู้และทักษะใหม่ๆ ของเยาวชน ผลผลิตทันที: เยาวชนได้รับความรู้และทักษะใหม่ๆ เช่น การแปรรูปวัสดุธรรมชาติ การทำกระดาษ การทำปุ๋ยหมัก หรือการสร้างผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้ ประโยชน์: การพัฒนาทักษะด้านสิ่งแวดล้อม การคิดเชิงสร้างสรรค์ และทักษะการทำงานร่วมกัน 3. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผลผลิตทันที: เยาวชนและชุมชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการรวบรวมใบไม้แห้ง การแปรรูป และการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ประโยชน์: สร้างความตระหนักเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 4. การจัดนิทรรศการหรือการแสดงผลงาน ผลผลิตทันที: การจัดนิทรรศการเพื่อแสดงผลงานจากใบไม้แห้งที่แปรรูป เช่น กระดาษ ปุ๋ยหมัก หรือของตกแต่ง ประโยชน์: เพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับการรีไซเคิลและการใช้วัสดุธรรมชาติในชุมชนและโรงเรียน 5. การขยายผลของโครงการในระดับโรงเรียน ผลผลิตทันที: โรงเรียนเริ่มมีการประยุกต์ใช้วิธีการแปรรูปใบไม้แห้งในกิจกรรมการเรียนการสอนและกิจกรรมในชุมชน ประโยชน์: เสริมสร้างการเรียนรู้ในระดับโรงเรียน และกระตุ้นให้เกิดการนำวิธีการเหล่านี้ไปใช้ในโรงเรียนอื่นๆ 6. การสร้างรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ผลผลิตทันที: ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการแปรรูปใบไม้แห้งสามารถนำไปขายในตลาดชุมชน โรงเรียน หรือใช้ภายในโรงเรียนเอง ประโยชน์: สร้างรายได้ให้กับโรงเรียนและชุมชน และส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น