ออทิสติกสกลนครวิสาหกิจเพื่อสังคม คือธุรกิจที่มุ่งเน้นการสร้างงานให้แก่บุคคลที่มีภาวะออทิสติก (Lucky Kids-เด็กโชคดี) ผ่านการฝึกฝนทักษะอาชีพและการผลิตสินค้าที่มีเอกลักษณ์ ทั้งสินค้าหัตถกรรม ของใช้ งานศิลปะ และสินค้าเชิงสร้างสรรค์ ที่สะท้อนความสามารถพิเศษของกลุ่มเป้าหมาย โครงการ Carbon Capture Craft มีเป้าหมายหลักในการเปลี่ยนปัญหามลพิษคาร์บอนให้กลายเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคม ผ่านกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์หัตถกรรมรักษ์โลกจากวัตถุดิบธรรมชาติในพื้นที่ชุ่มน้ำหนองหาร (ต้นกก, สมุนไพรหมาน้อย, ผ้าครามธรรมชาติ) ซึ่งมีศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอน ผลกระทบที่ต้องการบรรลุมี 3 ระดับหลัก:1.ด้านสิ่งแวดล้อม -ลดปริมาณคาร์บอนในชั้นบรรยากาศผ่านการใช้วัตถุดิบกักเก็บคาร์บอน -ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนโดยสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน 2.ด้านสังคม -สร้างโอกาสทางอาชีพให้บุคคลออทิสติกและชุมชน -พัฒนาทักษะฝีมือและระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ช่วยให้ผู้มีภาวะออทิสติกมีอาชีพที่มั่นคง 3.ด้านเศรษฐกิจ -สร้างแบรนด์ที่มีจุดขายด้านความยั่งยืนและ ESG -ขยายตลาดสู่กลุ่มผู้บริโภคที่สนใจสินค้ารักษ์โลก และพันธมิตรด้าน ESG ซึ่งจะช่วยให้สามารถพัฒนาและขยายผลกระทบอย่างเป็นระบบ นำไปสู่เศรษฐกิจที่ลดการปล่อยคาร์บอน พร้อมสร้างอาชีพที่มีคุณค่าและยั่งยืนให้กับบุคคลออทิสติกและชุมชน
ปัญหาสิ่งแวดล้อม: การปล่อยคาร์บอนในชั้นบรรยากาศที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน ขณะที่ทรัพยากรจากพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีศักยภาพกักเก็บคาร์บอนยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิดมูลค่าเพิ่มอย่างเป็นระบบ ปัญหาสังคม: บุคคลออทิสติกและชุมชนที่เกี่ยวข้องยังขาดโอกาสในการเข้าถึงงานที่มั่นคงและสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอ ส่งผลให้เกิดข้อจำกัดด้านเศรษฐกิจและการพึ่งพาตนเองในระยะยาว ปัญหาเศรษฐกิจ: งานหัตถกรรมที่ใช้วัตถุดิบจากพื้นที่ชุ่มน้ำยังไม่ได้รับการพัฒนาและสื่อสารในเชิงตลาดที่เหมาะสม ทำให้ขาดช่องทางกระจายสินค้าไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจหมุนเวียนและ ESG โครงการ Carbon Capture Craft มุ่งแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยเปลี่ยนทรัพยากรที่มีอยู่ให้เป็นโอกาสทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งเสริมแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านกระบวนการผลิตที่ช่วยลดคาร์บอนและสร้างอาชีพให้ชุมชน
โครงการ Carbon Capture Craft โดย ออทิสติกสกลนครวิสาหกิจเพื่อสังคม ใช้วัตถุดิบจากพื้นที่ชุ่มน้ำหนองหารที่มีศักยภาพกักเก็บคาร์บอน มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์หัตถกรรม ด้วยการทอมือ ผ้าครามปักลวดลายธรรมชาติ ปักด้วยมือของผู้มีภาวะออทิสติก เพื่อรักษ์สิ่งแวดล้อมและช่วยลดปริมาณคาร์บอนในชั้นบรรยากาศ พร้อมสร้างอาชีพที่มั่นคงให้บุคคลออทิสติกและชุมชนโดยส่งเสริมทักษะอาชีพและเศรษฐกิจหมุนเวียน ทำการฝึกทักษะอาชีพภายใต้ศูนย์พัฒนาทักษะอาชีพออทิสติกสกลนคร และทำการตลาดโดยเน้นกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับ ESG และเศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงการจับมือกับองค์กรที่มุ่งสู่ความยั่งยืนเพื่อขยายโอกาสและผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
: 12
: 1,000,000.00
: นางไทยวัน ชุมภูทอง
(กรรมการหุ้นส่วน)
นายวสันต์ มุลเมืองแสน
(ที่ปรึกษา ออทิสติกสกลนครวิสาหกิจเพื่อสังคม)
8.5 By 2030, achieve full and productive employment and decent work for all women and men, including for young people and persons with disabilities, and equal pay for work of equal value
13.3 Improve education, awareness-raising and human and institutional capacity on climate change mitigation, adaptation, impact reduction and early warning
4.5 By 2030, eliminate gender disparities in education and ensure equal access to all levels of education and vocational training for the vulnerable, including persons with disabilities, indigenous peoples and children in vulnerable situations
ผู้มีภาวะออทิสติก ครอบครับ และชุมชน |
||
บุคคลออทิสติกที่เข้าร่วมโครงการ 100 คน พร้อมครอบครัวของน้องๆในพื้นที่สกลนคร ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโครงการนี้ เนื่องจากพวกเขาขาดโอกาสในการเข้าถึงงานที่มั่นคงและรายได้ที่สม่ำเสมอ โครงการช่วยส่งเสริมทักษะอาชีพผ่านการฝึกอบรมและสร้างรายได้จากการผลิตสินค้าหัตถกรรม การทอกก ผ้าปัก จากครามธรรมชาติ
ปัญหา - การเข้าถึงอาชีพและรายได้ที่มั่นคง: บุคคลออทิสติกมักประสบปัญหาในการหางานที่เหมาะสม เนื่องจากข้อจำกัดด้านการสื่อสารและการปรับตัวเข้ากับระบบงานทั่วไป ส่งผลให้พวกเขาขาดรายได้ที่สม่ำเสมอ - การถูกจำกัดโอกาสทางสังคม: ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสามารถของบุคคลออทิสติกทำให้พวกเขามีโอกาสน้อยในการได้รับการฝึกอาชีพและการยอมรับจากตลาดแรงงาน - ขาดการสนับสนุนจากระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน: บุคคลออทิสติกที่มีทักษะด้านศิลปะและหัตถกรรมมักขาดช่องทางจัดจำหน่ายและเครือข่ายทางธุรกิจ ทำให้ศักยภาพของพวกเขาไม่ได้รับการต่อยอด โอกาส - การพัฒนาทักษะอาชีพผ่านงานหัตถกรรม: โครงการ Carbon Capture Craft เปิดโอกาสให้บุคคลออทิสติกได้รับการฝึกอบรมทักษะเฉพาะด้าน เช่น การออกแบบงานหัตถกรรมจากวัตถุดิบธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง - การเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจสีเขียว: ตลาดที่สนับสนุนเศรษฐกิจสีเขียวและ ESG กำลังเติบโต ส่งผลให้สินค้าหัตถกรรมที่ช่วยลดคาร์บอนมีโอกาสขยายไปสู่ตลาดที่มีศักยภาพ - การสร้างชุมชนและเครือข่ายสนับสนุน: โครงการสามารถทำให้บุคคลออทิสติกมีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน พร้อมทั้งสร้างชุมชนที่สนับสนุนการมีอาชีพของพวกเขา ความท้าทาย - การสร้างระบบการทำงานที่รองรับศักยภาพบุคคลออทิสติก: โครงการต้องออกแบบกระบวนการทำงานที่สอดคล้องกับความสามารถเฉพาะของบุคคลออทิสติก เช่น การกำหนดตารางงานที่ยืดหยุ่นและการใช้เครื่องมือช่วยพัฒนาทักษะ - การเข้าถึงตลาดและผู้บริโภค: แม้ผลิตภัณฑ์จะมีมูลค่าเชิงสิ่งแวดล้อม แต่การนำเสนอให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่สนใจ ESG ยังต้องมีการวางแผนด้านกลยุทธ์การตลาดและช่องทางการจำหน่าย - การขยายโครงการให้ยั่งยืนในระยะยาว: ต้องมีระบบสนับสนุนที่ช่วยให้บุคคลออทิสติกสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง พร้อมโครงสร้างที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตต่อไป |
||
1. การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะอาชีพ - เวิร์กช็อปงานหัตถกรรม Carbon Capture Craft: สอนการใช้วัตถุดิบจากหนองหาร เช่น ต้นกก ผ้าคราม สมุนไพรหมาน้อย เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์รักษ์โลก - หลักสูตรการออกแบบลวดลายและผลิตภัณฑ์: ฝึกอบรมบุคคลออทิสติกให้พัฒนาทักษะด้านศิลปะและออกแบบลวดลายที่มีความหมายเชิงสิ่งแวดล้อม - โปรแกรมพัฒนาทักษะธุรกิจเบื้องต้น: ฝึกสอนพื้นฐานด้านการตลาด การตั้งราคาสินค้า และการบริหารจัดการสำหรับการเป็นผู้ประกอบการ ผลลัพธ์ 1. ด้านเศรษฐกิจและการสร้างอาชีพ - บุคคลออทิสติก 100 คนได้รับการฝึกอบรมทักษะหัตถกรรม และสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Carbon Capture Craft - ครอบครัวและชุมชนมีโอกาสเข้าร่วมในกระบวนการผลิตและขยายตลาด ทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืน - ผลิตภัณฑ์ได้รับความสนใจจากธุรกิจที่สนับสนุน ESG ส่งผลให้เกิดช่องทางจำหน่ายใหม่ และความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 20% |
||
ชุมชนในพื้นที่ชุ่มน้ำหนองหาร กลุ่มชุมชนที่อยู่รอบพื้นที่ชุ่มน้ำหนองหาร รวมถึงชาวบ้านที่มีรายได้จากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ การที่โครงการนำวัตถุดิบจากหนองหารมาสร้างผลิตภัณฑ์ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพยากรในท้องถิ่น และส่งเสริมการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำให้สามารถทำหน้าที่กักเก็บคาร์บอนต่อไป กิจกรรม 1. การส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนจากทรัพยากรธรรมชาติ - โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมหัตถกรรมชุมชน:ส่งเสริมให้ชาวบ้านใช้ทรัพยากรจากหนองหาร เช่น ต้นกก สมุนไพรหมาน้อย และผ้าคราม ในการผลิตสินค้ารักษ์โลก - ตลาดสินค้าท้องถิ่นเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน:เปิดพื้นที่จำหน่ายสินค้าหัตถกรรมจากวัตถุดิบกักเก็บคาร์บอนในชั้นบรรยากาศ พร้อมสร้างเครือข่ายเศรษฐกิจสีเขียว 2. การอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำ - โครงการ “รักษ์หนองหาร”: สนับสนุนกิจกรรมฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำ โดยการปลูกพืชกักเก็บคาร์บอนและสร้างระบบอนุรักษ์ทรัพยากร - เวิร์กช็อปการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน: อบรมชุมชนเกี่ยวกับวิธีใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าโดยไม่ทำลายระบบนิเวศ 3. การสร้างความร่วมมือระหว่างชุมชนและภาคธุรกิจ - โครงการจับมือกับธุรกิจ ESG: เปิดโอกาสให้ชุมชนร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์รักษ์โลกกับองค์กรที่สนับสนุนเศรษฐกิจสีเขียว - การขยายตลาดหัตถกรรมสู่ระดับประเทศ: ส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์จากชุมชนเข้าถึงตลาดในกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับ ESG 4. กิจกรรมสื่อสารและสร้างความเข้าใจ - แคมเปญ “คาร์บอนเป็นโอกาส”: สร้างความตระหนักเรื่องการกักเก็บคาร์บอนผ่านผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบจากหนองหาร - นิทรรศการ Carbon Free Showcase: แสดงให้เห็นถึงความสามารถของพื้นที่ชุ่มน้ำในการช่วยลดคาร์บอน พร้อมนำเสนอเรื่องราวของชุมชน 5. การพัฒนาสวัสดิการและคุณภาพชีวิตของชุมชน - โครงการฝึกอาชีพและพัฒนารายได้: สนับสนุนให้ชุมชนมีทักษะอาชีพที่ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน - ระบบสนับสนุนด้านสุขภาพและสวัสดิการในพื้นที่ชุ่มน้ำ: จัดตั้งระบบดูแลสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในอุตสาหกรรมหัตถกรรมและการอนุรักษ์ทรัพยากร |
||